การเริ่มต้นเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์

ลูกน้อยของคุณคือของขวัญที่มีค่าทีสุดในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่เช่นคุณ คุณจึงอยากมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับเขาตั้งแต่แรกเกิด : และของขวัญนั้นคือสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน

โภชนาการในวัยเด็กจะส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของคุณเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ คุณคงไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยของคุณต้องล้มป่วยเพียงเพราะจัดการเรื่องโภชนาการอาหารได้ไม่ดีพอ

อุปนิสัยในการรับประทานสร้างได้ตั้งแต่วัยเยาว์:

ลองจินตนาการถึงเด็ก ๆ ที่เคยชินกับการรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยเกลือและน้ำตาลสิ, เราต่างรู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ดีต่อพวกเขา

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยอาหารที่มีปริมาณเกลือต่ำจะทำให้เขาไม่อยากรับประทานรสเค็มจัดเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แน่นอนว่าสำหรับเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยอาหารที่มีปริมาณเกลือสูงก็จะยังคงเคยชินและติดการรับประทานเค็มเช่นนี้ไปตลอดชีวิตของพวกเขา

อุปนิสัยที่ไม่ดีในการรับประทานเกลือและน้ำตาลที่มากเกินไปนั้นจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อพวกเขาได้รับอนุญาติให้รับประทานสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ

ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บอาหารที่ไม่ต้องการให้เขารับประทานไว้ในบ้าน เพราะพวกเด็ก ๆ มีความสามารถที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาสามารถที่จะปฏิเสธการรับประทานอาหารที่คุณจัดเตรียมไว้ได้ด้วยความเกรี้ยวกราดและงอแงไม่หยุดจนกว่าเขาจะได้รับประทานอาหารที่เขาต้องการ

เด็ก ๆ ควรได้รับอาหารเน้นพืชและไม่ปรุงแต่งเป็นหลัก (เพื่อให้พวกเขาได้รับคุณค่าจากพืชผักผลไม้ทั้งหมด) เป็นอาหารที่มีสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่เด็กต้องการในการเจริญเติบโตซึ่งอยู่ในผักผลไม้ต่าง ๆ ธัญพืชและเมล็ดพันธ์พืชในทุก ๆ วัน

แพทย์ยืนยันว่าการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นคือการรับประทานอาหารเน้นพืชและไม่ปรุงแต่งเป็นหลักจะช่วยให้ลูกน้อยของคุณมีขีวิตที่มีความสุข เจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัยและมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

สร้างเสริมสุขภาพที่ดีด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อุปนิสัยในการรับประทานอาหารมีความสัมพันธ์กับสุขภาพโดยตรงของลูกน้อย สุขภาพของพวกเขาจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณป้อนให้รับประทาน ดังนั้นคุณต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า อาหารไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ใช้ในการดับความหิวกระหายเท่านั้นแต่ยังเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารที่ร่างกายต้องการด้วย นี่คือเคล็ดลับบางส่วนที่จะจะทำให้ลูกน้อยของคุณมีความสุขไปกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ:

• กำจัดผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่อยู่ในบ้านให้หมด อย่าเก็บน้ำตาล, น้ำมัน, สารให้ความหวาน, อาหารที่แต่งเติมสีสันหรือใส่สารเติมแต่งรสชาติไว้ในบ้านเด็ดขาด
• อย่าให้บุตรหลานรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพเพราะพวกเขาจะติดเป็นนิสัยและจะรับประทานอาหารประเภทนี้ไปตลอดชีวิตที่เหลือของพวกเขา
• อย่าป้อนอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของพวกเขาเพื่อเป็นรางวัลในการทำสิ่งที่ดีแต่ป้อนอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นรางวัลแทน
• ตกแต่งจานอาหารด้วยสีสันชวนรับประทานของผักผลไม้ เล่นเกมส์เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเล่านิทานระหว่างรับประทานอาหารเพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกสนานในการรับประทานผักผลไม้
• ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้นเมนูใหม่ ๆ เสมออย่างการตักเนื้อแตงโมเป็นสคูปกลมเหมือนกับไอติมหรือหั่นแครอทให้เป็นแท่งเหมือนขนมเพื่อให้รับประทานง่ายและเพิ่มความสนุกนานไปกับการรับประทาน
• Get creative with food servings – scoop out watermelon balls, or make shapes out of carrot sticks
• ตั้งชื่อช่วงเวลาอาหารว่างด้วยชื่ออาหารเพื่อสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น เวลา 4 โมงเย็นเป็น “เวลาของลูกแพร์” หรือเวลา 11 โมง เป็น “เวลาของน้ำมะพร้าว”

สร้างตารางเวลาสำหรับกิจวัตรประจำวันในแต่ละวันของเด็กๆ

สร้างตารางการรับประทานอาหารประจำวันที่จะทำให้ลูกน้อยมีวินัยและอุปสัยที่ดีในการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา

• รับประทานอาหารร่วมกัน: การรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวจะทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้ว่าการรับประทานอาหารในเวลานี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องกระทำ
• เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อย: อย่ารับประทานอาหารที่คุณห้ามไม่ให้ลูกน้อยรับประทานและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกับอาหารที่ให้ลูกของคุณรับประทาน
• อนุญาติให้พวกเขารับประทานอาหารมากเท่าที่ต้องการจนกว่าจะรู้สึกอิ่ม อย่าขู่เข็ญหรือนำรางวัลมาหลอกล่อเพื่อให้พวกเขารับประทานอาหารตามที่คุณต้องการ

ข้อมูลอ้างอิง:

1. เคลลี่ ดอล์ฟแมน (วท.ม.) ผู้แต่งหนังสือ รักษาลูกน้อยด้วยอาหาร
2. นพ. มิลตัล อาร์ มิล ผู้อำนวยการสมาคมเวชศาสตร์ป้องกัน PCRM
3. นพ. โจเอล เฟอร์แมน ผู้แต่งหนังสือ โรคที่พิสูจน์ได้ในเด็ก
4. พญ. นาตาลี เกียรี และ ดร. ออซ การ์เซีย ผู้แต่งหนังสือ อาหารรักษาโรคสำหรับเด็ก