ใช้ชีวิตอย่างฉลาด และคอยรักษาภูมิคุ้มกัน
ใช้ชีวิตอย่างฉลาด และคอยรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
ทำไมเราจึงล้มป่วย ติดเชื้อ หรือเป็นโรคเรื้อรัง ยังคงมีคำถามเกิดขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพ และโรคภัยไข้เจ็บแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญพยายามค้นหาทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในสมอง และร่างกายของเราก็ตาม ร่างกายของเราเป็นระบบที่มีความซับซ้อน เซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะ และระบบต่าง ๆ ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ มากมาย
แนวคิดสำหรับการรักษาสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี
สุขภาพ ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก คือ 'สภาวะที่สมบูรณ์ของร่างกาย จิตใจ และความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคม แต่ไม่ใช่แค่การไม่มีโรค หรือความทุพพลภาพเท่านั้น'1,2 คุณมักจะคิดว่าตัวเองมีสุขภาพที่ดีหากไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล หรือคลินิกบ่อย ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้ยินคำว่า 'การดูแลสุขภาพ' คุณจะคิดถึงยารักษาโรค และจิตใจของคุณจะหมกมุ่นอยู่กับโรค การวินิจฉัย และการรักษา การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพมักไม่ใช่ประเด็นของการดูแลสุขภาพ
เมื่อคุณปรารถนาที่จะมีสุขภาพที่ดี ให้คุณลองถามตัวเองด้วยคำถามที่สำคัญมากกว่าเหล่านี้:
- คุณเคยให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณกำลังรับประทานหรือไม่? คุณสนใจที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น หรืออันตรายจากอาหารของคุณหรือไม่?
- คุณไม่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หรือไม่ต้องใช้ยาเพื่อทำให้นอนหลับหรือไม่?
- การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญของกิจวัตรประจำวันของคุณหรือไม่?
- คุณทราบหรือไม่ว่าปริมาณความเครียดในแต่ละวันของคุณเป็นตัวกำหนดความเจ็บป่วย การรักษา และการฟื้นตัวของคุณ?
- คุณจะรับมือกับผลข้างเคียงของยาได้อย่างไร?
หากคำถามใดคำถามหนึ่ง หรือทั้งหมดทำให้คุณต้องอึ้ง แสดงว่าความคิดทั้งหมดเกี่ยวกับสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของคุณถูกทำลายไป
ตามหลักการแล้ว รากฐานของสุขภาพของเราตั้งอยู่บนเสาหลักสี่ต้น คือ:
- โภชนาการ
- ไลฟ์สไตล์
- สิ่งแวดล้อม
- พันธุศาสตร์
เมื่อไหร่ก็ตามที่เสาหลักทั้งสี่ต้นนี้ถูกโจมตี หรืออ่อนแอลง คุณต้องมีการสนับสนุนจากภายนอกเพื่อป้องกันการพังทลาย สัญลักษณ์นี้ทำให้เกิดการเข้าสู่ขั้นตอนในการดูแลรักษาชีวิตของคุณ และค่อย ๆ กลายเป็นเสาหลักที่ห้าด้านสุขภาพ
ในทางกลับกัน สุขภาพยังมุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกของคุณที่เกี่ยวกับร่างกาย จิตใจ หรือกำลังใจของคุณ ความเป็นอยู่ที่ดี และสุขภาพกายเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน และไม่สามารถพูดคุยแยกกันได้ แนวคิดของการมีสุขภาพที่ดีช่วยมอบแนวทางการใช้ชีวิตอย่างมีสติแก่บุคคล และสังคมเพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดให้กับพวกเขา คุณไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีได้ที่สปา หรือศูนย์ทำกิจกรรมใด ๆ สมการของสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีจะทำงานควบคู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของการดำเนินชีวิตเพื่อสนับสนุนการรักษาร่างกาย และจิตใจโดยรวมให้ดีขึ้น
สุขภาพองค์รวม
ยาแผนโบราณ และการดูแลสุขภาพยังคงมีความเกี่ยวข้องกัน และได้ช่วยชีวิตคนมาแล้วจำนวนนับล้าน แนวทางด้านสุขภาพแบบองค์รวมไม่ใช่แนวคิดสมัยใหม่ แต่ได้รับมาจากประเพณีโบราณเพื่อทำให้มีสุขภาพที่ดีในระดับที่สูงขึ้น และป้องกันโรคต่าง ๆ
สุขภาพแบบองค์รวมเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่กระตุ้นให้ผู้คนกำหนดการใช้ชีวิตจากทุกแง่มุมด้วย: ร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ ผู้คนต้องการยา โรงพยาบาล แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาช่วยรักษาชีวิตของพวกเขา
แต่พวกเขายังต้องการโภชนาการ การรับประทานอาหารที่สมดุล ความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ การออกกำลังกายทั้งทางร่างกาย และจิตใจ และการทำสมาธิเพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือกวิถีชีวิต และการตัดสินใจด้านสุขภาพ
เมื่อคุณให้ความสำคัญกับอาหาร การกระทำ การนอนหลับ และพฤติกรรมของคุณอย่างมีสติ สุขภาพทางอารมณ์ และจิตวิญญาณของคุณจะดีขึ้น สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการป้องกันการติดเชื้อ หรือรักษาโรคเรื้อรังได้
มิติของสุขภาพองค์รวม และความเป็นอยู่ที่ดี
มิติของสุขภาพองค์รวม และความเป็นอยู่ที่ดีซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตนั้นจะประกอบไปด้วย ร่างกาย สังคม จิตใจ สิ่งแวดล้อม และจิตวิญญาณ
1. ร่างกาย
คุณควรทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่ต้องออกแรง หรือรู้สึกเหนื่อยจนเกินไป หรือรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย
2. สังคม
คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน และชุมชน คุณสามารถสร้างสมดุลระหว่างความกดดันในชีวิตการทำงาน และรู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่ทำ คุณมีส่วนสนับสนุนในเชิงบวกต่อองค์กรของคุณ และต่อสังคม
3. จิตใจ
จิตใจ คือ สิ่งที่สามารถเอาชนะความท้าทายในชีวิตของคุณโดยใช้ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับจุดแข็ง และข้อจำกัดของคุณ รับทราบและแบ่งปันความรู้สึกของคุณ (ความโกรธ ความกลัว ความเศร้า ความสุข หรือความเครียด) กับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิผล ยินดีรับแนวคิดใหม่ ๆ เรียนรู้แนวคิดใหม่ ๆ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะ
4. สิ่งแวดล้อม
คุณตระหนักถึงความรับผิดชอบของคุณในการอนุรักษ์ธรรมชาติ และมีส่วนร่วมในการปกป้องธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง สถานะที่ดีของสภาพแวดล้อมของคุณช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณโดยตรง
5. จิตวิญญาณ
มันเป็นการแสวงหาที่ไม่จบสิ้นเพื่อค้นหาจุดประสงค์ของการดำรงอยู่ และความหมายของชีวิต ก้าวข้ามสิ่งจูงใจที่ทำให้เกิดความเห็นแก่ตัวเพื่อสร้างสันติภาพ และความปรองดอง เข้าใจความสำคัญของคุณค่า จุดประสงค์ส่วนตัว และจุดประสงค์ของความเป็นมนุษย์ที่มีร่วมกัน
นิสัยที่ดีต่อสุขภาพเพื่อระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามผ่านช่วงการแพร่ระบาดของโรคครั้งใหญ่นี้ไปได้ ภูมิคุ้มกัน ด่านแรก และด่านสุดท้ายของคุณขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ที่คุณเลือก ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ขึ้นจะทำให้คุณมีโอกาสป้องกัน และ ฟื้นตัวจากโรค หรือการติดเชื้อได้ดีขึ้น
คุณไม่สามารถเทน้ำลงในแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำได้ รูปแบบของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงนั้นจะขึ้นอยู่กับอาหารของคุณ ระดับกิจกรรมที่ใช้ร่างกายสุขภาพทางอารมณ์ และคุณภาพการนอนหลับของคุณ
นำสุขภาพองค์รวมไปใช้
ต่อไปนี้คือแนวทาง 5 ข้อในการนำแนวคิดเรื่องสุขภาพ และสุขภาวะแบบองค์รวมไปใช้โดยอ้างอิงกับการใช้ชีวิตในเชิงบวก:
1. คุณรับประทานอะไร คุณก็ได้อย่างนั้น
รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของอาหารกับวัฒนธรรม ภูมิอากาศ วัฏจักรการเพาะปลูก และอาหาร อาหารท้องถิ่น ตามฤดูกาล หรืออาหารดั้งเดิมคือพรอันประเสริฐสำหรับทุกคน ภาวะทุพโภชนาการไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนจน และคนในชนบท
การขาดวิตามิน และแร่ธาตุ เช่น วิตามินดี บี 12 หรือธาตุเหล็กถือเป็นภาวะทุพโภชนาการ ปัจจุบัน แม้แต่ชนชั้นสูง และประชากรในเมืองก็ยังขาดสารอาหารกันสูงมาก คุกกี้ หรือมันฝรั่งทอดหนึ่งห่อที่คุณรับประทานเข้าไป บางครั้งก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้คุณป่วย
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คุณป่วยได้ เช่น: การบริโภคมากเกินความต้องการของคุณ การรับประทานอาหารแปรรูปในปริมาณมาก การไม่ทราบเกี่ยวกับอันตรายของน้ำตาลที่มีต่อสุขภาพ การไม่สนใจอาหารโบราณ หรือแบบดั้งเดิม เช่น เมล็ดธัญพืช รับประทานอาหารเพื่อทำให้อารมณ์ดีขึ้น การอดอาหาร และรับประทานอาหารตามอาหารแฟชั่น
อาหารแปรรูป หรืออาหารขยะอุดมไปด้วยน้ำตาลในปริมาณมาก ขาดสารอาหาร ทำให้คุณหิว และเสพติดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้คุณเข้าใกล้โรคเบาหวาน มะเร็ง และโรคหัวใจได้มากขึ้น
ปรุงอาหารง่าย ๆ และรับประทานอาหารง่าย ๆ รับประทานอาหารที่มีธัญพืชเต็มเมล็ด ผลไม้ และผักสูง เมื่ออาหารจากฟาร์มมาถึงครัวของคุณ อาหารนั้นควรปราศจากการใส่เครื่องหมายแฮชแท็กบนโซเชียลมีเดีย เป็นอาหารตามกระแสนิยม หรือรับประทานตามเหล่าอินฟลูเอนเซอร์เนื่องจากการเล่าเรื่องเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ
2. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายโดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ หรือความสามารถทางร่างกายจะเป็น ประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน และ สุขภาพโดยรวมของคุณ เมื่อคุณทำกิจกรรมที่ใช้ร่างกาย คุณจะสามารถควบคุมน้ำหนัก แคลอรี และควบคุมโรคเรื้อรังได้ กีฬา โยคะ เต้นรำ หรือเข้ายิม ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบใด ๆ ก็ตามจะช่วยปลูกฝังความมั่นใจ ความแข็งแรง และความสามารถได้ การออกกำลังกายช่วยทำให้ร่างกาย และจิตใจของคุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพิ่มความอยากอาหาร และการนอนหลับ และชะลอความชรา
โยคะ คือ แนวทางในการใช้ชีวิต โยคะครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โยคะนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นท่าทางในการยืด และบิดที่ซับซ้อนก็สามารถได้รับประโยชน์สูงสุด ผลลัพธ์จากการฝึกโยคะนั้นมากมายมหาศาล
การฝึกท่าทาง การฝึกหายใจ และการทำสมาธิที่ถูกต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง และสารเคมีในสมองของคุณ ซึ่งช่วยส่งผลต่อวิธีจัดการกับอารมณ์ ความเครียด และความวิตกกังวลของคุณได้ รวมทั้งยังช่วยให้คุณมีความพึงพอใจกับชีวิต และมีสุขภาพดีขึ้น
3. ให้ความสำคัญกับการนอนหลับ
คุณภาพของการนอนหลับของคุณสมควรได้รับการเอาใจใส่ในระดับเดียวกันกับการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย เสาหลักที่สำคัญของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง คือ การนอนหลับซึ่งทำให้คุณมีพลังงานพร้อมสำหรับวันใหม่ และทำให้จิตใจของคุณไม่ฟุ้งซ่าน
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และการทำงานจากที่บ้าน พวกเราบางคนจำเป็นต้องทำงานในเขตเวลาที่แตกต่างกัน หรือกะการทำงานที่เงียบสงัด การอดนอนเป็นประจำจะ ส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณ และความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อจะลดลง เปลี่ยนแปลงความอยากอาหาร ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ
การออกกำลังกาย และโยคะเป็นประจำทำให้การนอนหลับดีขึ้น สร้างกิจวัตรการเข้านอนที่ผ่อนคลาย และพยายามเข้านอน และตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน งีบหลับก่อนเริ่มทำงานในกะกลางคืน
อย่ากักตุนการนอนหลับของคุณในช่วงสุดสัปดาห์เมื่อคุณต้องทำงานในกะกลางคืน ปฏิบัติตามตารางการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และการนอนหลับแม้ว่าจะเป็นวันหยุดก็ตาม การนอนหลับไม่ใช่เรื่องการใช้ชีวิตหรูหรา แต่มันเป็นเรื่องสำคัญ ช่วยฟื้นฟู และเพิ่มพลังให้กับสุขภาพร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของคุณ
4. ปัจจัยอื่น ๆ ในการใช้ชีวิต
การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติด และความเครียดนั้นเป็นปัจจัยกำหนดชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าปัจจัยอื่น ๆ บุหรี่ทำให้วิตามิน และแร่ธาตุหมดไปจากร่างกายของคุณในขณะที่คุณสูบบุหรี่ นอกจากนี้ ยังจะเป็นการเติมสารเคมีที่เป็นพิษ และอนุมูลอิสระเข้าไปในร่างกายของคุณอีกด้วย
ความเครียด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมการใช้ชีวิตในสังคม และคุณภาพชีวิตของคุณ การทำงานอดิเรกอย่างต่อเนื่อง ฟังเพลง และหยุดพักจากสิ่งที่ทำเป็นประจำวันในชีวิต คือ วิธีคลายเครียดที่ทำได้ง่าย ๆ แอลกอฮอล์ไม่ใช่สิ่งสำหรับลดความตึงเครียด และทำให้รู้สึกเพลิดเพลินที่ดีต่อสุขภาพเนื่องจากการบริโภคแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อความดันโลหิต และการทำงานของหัวใจ
5. การเจริญสติ
คุณเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งสติ สิ่งที่ต้องทำคือหยุด ถอยหลังหนึ่งก้าว และฝึกฝน มันยากแค่ไหนที่จะทำทุกอย่างให้ช้าลง และให้ความสนใจกับสิ่งรอบข้างของคุณ? เมื่อคุณสัมผัสกับสภาพแวดล้อมของคุณด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมดของคุณ - การสัมผัส เสียง การมองเห็น กลิ่น และรส คุณจะบรรลุสภาวะของความรู้สึกตัว หรือการรับรู้ และนี่คือการเจริญสติ อยู่กับปัจจุบัน ค้นหาความสุขจากความสุขง่าย ๆ ยอมรับตัวเอง และรับทราบจุดแข็ง และจุดอ่อนของคุณ หลีกเลี่ยงความคิดด้านลบ หรือทำลายล้าง เมื่อคุณมีความคิดเชิงลบเกิดขึ้น ให้คุณลองนั่งลง หายใจลึก ๆ แล้วหลับตา จดจ่อกับลมหายใจในขณะที่ลมหายใจเข้า และออกจากร่างกาย การนั่ง และหายใจแม้เพียงแค่นาทีเดียวก็สามารถช่วยได้ สติจะสอนคุณว่าอย่าปล่อยให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอดีต หรืออนาคตมากระทบคุณ
สรุป
มุ่งรักษาสมดุลในแต่ละด้านของสุขภาพองค์รวม: สุขภาพกาย สุขภาพจิต สังคม และจิตวิญญาณ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกายให้เพียงพอ นอนหลับให้สบาย ล้างพิษในร่างกาย และจิตใจของคุณ ฝึกเจริญสติ